ช่วงฤดูฝนเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ เนื่องจากถนนเปียก ลื่น และทัศนวิสัยลดลง การขับขี่อย่างระมัดระวังและการเตรียมความพร้อมของรถจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
ขับรถหน้าฝนให้ปลอดภัย
1. ตรวจสอบความพร้อมของรถให้ดี
- ยางรถยนต์: ตรวจสอบดอกยางให้มีความลึกตามกฎหมายกำหนด (ไม่ต่ำกว่า 1.6 มม.) เพื่อประสิทธิภาพในการรีดน้ำและเกาะถนน และอย่าลืมเช็กแรงดันลมยางให้เหมาะสม
- ที่ปัดน้ำฝน: เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนหากยางแข็งหรือปัดไม่สะอาด เพราะเป็นหัวใจสำคัญของทัศนวิสัย
- ระบบไฟส่องสว่าง: ตรวจสอบไฟหน้า ไฟท้าย และไฟตัดหมอก (ถ้ามี) ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
2. ลดความเร็วและเพิ่มระยะห่าง
เมื่อถนนเปียก ระยะเบรกจะยาวกว่าปกติมาก ควรลดความเร็วลงจากปกติ และ เพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้า ให้มากกว่า 2-3 เท่า เพื่อให้มีเวลาในการตอบสนองและเบรกได้ทัน หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
3. รับมือกับ “ถนนลื่น” และ “น้ำท่วม”
- หลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหัน: ให้ใช้การย้ำเบรกเป็นจังหวะเบา ๆ และค่อย ๆ ผ่อนความเร็วลง
- ระวังอาการเหินน้ำ (Hydroplaning): หากรถเริ่มลอยหรือเหินน้ำ ให้จับพวงมาลัยให้มั่นคง อย่าเบรกหรือหักพวงมาลัยกะทันหัน แต่ให้ถอนคันเร่งอย่างช้า ๆ จนรถกลับมาเกาะถนน
- เมื่อเจอแอ่งน้ำท่วมขัง: ไม่ควรขับลุยด้วยความเร็วสูง แต่ควรประเมินความลึก ถ้าลึกเกินครึ่งล้อรถ ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางนั้น
ขับช้าลง ใจเย็นลง คือกุญแจสำคัญของการขับรถในฤดูฝน