กฐิน เป็นประเพณีทางพุทธศาสนาที่สำคัญและสืบทอดกันมายาวนาน เป็นการทำบุญถวายผ้าแด่พระสงฆ์ที่จำพรรษาครบไตรมาส (3 เดือน) ในวัดใดวัดหนึ่ง โดยมีกำหนดระยะเวลาเพียง 1 เดือน หลังวันออกพรรษาเท่านั้น การถวายกฐินถือเป็นบุญใหญ่ที่มีอานิสงส์มาก บทความนี้จะนำเสนอ “คำถวายผ้ากฐิน” พร้อมอธิบายความหมาย และขั้นตอนการถวายที่ถูกต้อง
ความสำคัญและอานิสงส์ของการทอดกฐิน
การทอดกฐินไม่ใช่เพียงแค่การถวายผ้า แต่ยังเป็นการรวมพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนาและวัดวาอาราม อานิสงส์ของการทอดกฐินนั้นเชื่อกันว่ายิ่งใหญ่มาก ทั้งแก่ผู้ถวายและพระสงฆ์ผู้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถวาย ผ้ากฐิน นั้น เป็นการปลดเปลื้องความกังวลของพระสงฆ์ในการแสวงหาจีวรใหม่หลังออกพรรษา
คำถวายผ้ากฐิน (แบบประธานกล่าว)
คำกล่าวถวายผ้ากฐินที่ถูกต้องตามพระวินัย จะต้องเป็นภาษาบาลี ซึ่งผู้กล่าวต้องเปล่งวาจาด้วยความตั้งใจและมีสติ โดยมีทั้งแบบย่อและแบบเต็ม ในที่นี้คือคำถวายที่นิยมใช้และสวดเป็นประธาน:
คำกล่าวถวาย (บาลี):
อิมานิ มะยัง ภันเต, สะปะริวารานิ, กะฐินะจีวะระทานานิ, สังฆัสสะ, โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, สังโฆ, อิมานิ, สะปะริวารานิ, กะฐินะจีวะระทานานิ, ปะฏิคคัณหาตุ, ปะฏิคคะเหต๎วา, จะ อิมินา, กะฐินะทุสเสนะ, อัตถะตะรันตุ, อัมหากัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ, นิพพานายะ จะฯ
คำแปล (ไทย) และความหมาย
คำแปล:
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวาย ซึ่งผ้ากฐินทาน กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงรับ ซึ่งผ้ากฐินทาน กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย และเมื่อรับแล้ว จงกรานกฐิน ด้วยผ้ากฐินนี้ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข เพื่อมรรคผลนิพพาน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ตลอดกาลนานเทอญฯ
ความหมายที่ซ่อนอยู่:
คำกล่าวนี้เป็นการแสดงเจตจำนงค์ที่ชัดเจนต่อพระสงฆ์ว่า คณะกฐินมีความประสงค์จะ น้อมถวาย (โอโณชะยามะ) ผ้ากฐินนี้ แด่พระสงฆ์ทั้งหมด (สังฆัสสะ) โดยให้พระสงฆ์รับผ้าผืนนี้ไป และนำไป กรานกฐิน (อัตถะตะรันตุ) ตามพระวินัย เพื่อเป็นประโยชน์และความสุขแก่ผู้ถวายทั้งในโลกนี้และในทางธรรม
ขั้นตอนการถวายผ้ากฐินที่ถูกต้อง
โดยทั่วไป การทอดกฐินจะมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:
- รวมกลุ่มและตั้งขบวน (เตรียมตั้งองค์กฐิน): คณะเจ้าภาพพร้อมเครื่องบริวารกฐินเดินทางไปยังวัด
- แห่องค์กฐิน: เมื่อมาถึงวัด จะมีการแห่องค์กฐินไปรอบๆ พระอุโบสถหรือศาลาการเปรียญ 3 รอบ เพื่อแสดงความเคารพต่อสถานที่
- การกล่าวคำถวาย:
- ประธานทอดกฐินจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
- คณะกฐินยกผ้ากฐินขึ้นประคองพร้อมกัน (โดยมีประธานถือไว้ด้านบนสุด)
- ประธานกล่าวคำถวายผ้ากฐิน (ภาษาบาลีและคำแปลไทย) โดยพร้อมเพรียงกัน
- ถวายผ้ากฐิน: ประธานนำผ้ากฐินไปวางไว้ต่อหน้าพระสงฆ์
- พระสงฆ์ทำพิธีกรานกฐิน (ในเขตพัทธสีมา):
- เมื่อคณะกฐินถวายผ้าเสร็จ พระสงฆ์จะปรึกษาและลงมติเลือกพระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งให้เป็นผู้รับผ้ากฐิน (โดยมักเป็นพระเถระที่พรรษามาก)
- พระสงฆ์ผู้ได้รับเลือกจะนำผ้าไปทำพิธี กรานกฐิน ภายในพระอุโบสถ ซึ่งเป็นพิธีเฉพาะสงฆ์ และเป็นหัวใจสำคัญของพิธีนี้
- อนุโมทนาบุญ: พระสงฆ์ทั้งปวงจะสวด อนุโมทนากถา เพื่อให้พรและอนุโมทนาบุญแก่คณะเจ้าภาพกฐินเป็นอันเสร็จพิธี
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
- เน้นที่เจตนา: สิ่งสำคัญที่สุดในการทอดกฐินคือ เจตนาบริสุทธิ์ ที่จะถวายผ้าและปัจจัยเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
- บริวารกฐิน: บริวารกฐิน เช่น เงินทอง หรือเครื่องอุปโภคบริโภคอื่นๆ ถือเป็นส่วนประกอบ ไม่ใช่หัวใจหลักของการทอดกฐิน หัวใจสำคัญคือ ผ้ากฐิน
- ผ้ากฐินเป็นของสงฆ์: ผ้ากฐินเมื่อถวายแล้วจะต้องเป็นสมบัติของพระสงฆ์ทั้งวัด (สังฆัสสะ) ไม่ใช่สมบัติของพระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งโดยเฉพาะ
การทอดกฐินจึงเป็นโอกาสอันดีที่พุทธศาสนิกชนจะได้ร่วมสร้างบุญใหญ่และร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามนี้ไว้ให้คงอยู่สืบไป