สำหรับคนที่มีฐานะร่ำรวย การเลือกเลี้ยงสุนัขไม่ได้เป็นเพียงแค่การหาเพื่อนคลายเหงาเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึง สถานะทางสังคม (Status Symbol) และรสนิยมอันหรูหรา สุนัขเหล่านี้มักมีราคาสูงลิบลิ่วเนื่องจากความหายาก สายเลือดที่บริสุทธิ์ และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่เหนือกว่าสุนัขทั่วไป ลองมาดูสายพันธุ์ยอดนิยมที่มักถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “หมาไฮโซ” กัน:
“หมาไฮโซ” สุนัขราคาแพง ที่คนรวยเลือกเลี้ยง
👑 ราชาแห่งสุนัข: ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiff)
- สิ่งที่สะท้อนฐานะ: สายพันธุ์นี้ครองแชมป์เป็นสุนัขที่ แพงที่สุดในโลก อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสายเลือดแท้จากทิเบต มีบันทึกราคาซื้อขายสูงสุดถึงหลัก หลายสิบล้านบาท
- ลักษณะเด่น: มีขนาดใหญ่โต ขนหนาแน่นคล้ายสิงโต มีความซื่อสัตย์และดุดันในการเฝ้าบ้าน การเลี้ยงสุนัขที่ใหญ่และโดดเด่นเช่นนี้ จึงบ่งบอกถึงความมั่งคั่งและมีพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับการดูแล
- ค่าใช้จ่ายเกี่ยวข้อง: ราคาตัวเริ่มต้นสูงมาก, ค่าอาหารระดับพรีเมียม, ค่าดูแลขนที่หนาแน่นเป็นพิเศษ
❄️ รอยยิ้มสีขาวที่หรูหรา: ซามอยด์ (Samoyed)
- สิ่งที่สะท้อนฐานะ: แม้ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่หลักแสน แต่ซามอยด์สายเลือดดีมีราคาสูงมากถึง 300,000 บาทขึ้นไป การดูแลซามอยด์ให้สวยงามต้องใช้ความทุ่มเทและเงินทุนสูง
- ลักษณะเด่น: ขนสีขาวฟูฟ่อง หนาแน่น และมีรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์
- ค่าใช้จ่ายเกี่ยวข้อง: ต้องอยู่ในสภาพอากาศเย็นหรือห้องแอร์ตลอดเวลา, ค่าอาหารคุณภาพสูงเพื่อบำรุงขนสีขาวให้เงางาม, ค่ากรูมมิ่ง ( Grooming) ที่ต้องทำเป็นประจำ
🦁 สิงโตจิ๋วจากตะวันออก: เชา เชา (Chow Chow)
- สิ่งที่สะท้อนฐานะ: สุนัขสายพันธุ์โบราณจากจีน ที่มีลักษณะคล้ายสิงโต และมีลิ้นสีน้ำเงินอมดำ เป็นสัญลักษณ์ของ ความมงคลและบารมี ตามความเชื่อจีน ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ทำธุรกิจ
- ลักษณะเด่น: มีแผงคอหนาแน่น รูปร่างใหญ่กำยำ นิสัยรักสันโดษและมีความเป็นตัวเองสูง
- ค่าใช้จ่ายเกี่ยวข้อง: ราคาตัวเริ่มต้นสูง, ค่าดูแลสุขภาพและขนที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
สรุป: สุนัขราคาแพงที่คนรวยเลือกเลี้ยง มักมีลักษณะที่เด่นชัด มีความเป็นเอกลักษณ์ หรือมีความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ การเป็นเจ้าของสุนัขเหล่านี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน แต่ยังหมายถึงความสามารถในการดูแลและมอบชีวิตที่มีคุณภาพสูงสุดให้กับพวกมันด้วย
