ใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากเห็น หอไอเฟล สัญลักษณ์แห่งความโรแมนติกของปารีสสักครั้งในชีวิต แต่เบื้องหลังภาพถ่ายที่สวยงามเหล่านั้น กำลังมี หอไอเฟล ปัญหา รุมเร้าอย่างหนัก ทั้งเรื่องความสกปรก การบำรุงรักษาที่ล่าช้า และเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่เกิดขึ้นซ้ำๆ จนทำให้นักท่องเที่ยว 7 ล้านคนต่อปี เริ่มตั้งคำถามว่า อนุสาวรีย์แห่งนี้ยังคู่ควรกับสถานะ “ที่สุดในโลก” หรือไม่
“หอไอเฟล ปัญหา” โครงสร้างสนิม-ไฟไหม้ลิฟต์
ปัญหาของหอไอเฟลไม่ใช่แค่เรื่องความงาม แต่เป็นประเด็นด้านโครงสร้างและการจัดการที่ต้องเร่งแก้ไข ก่อนที่ปารีสจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก 2024:
- ความสกปรกและขยะ: พื้นที่สวน Champ de Mars รอบหอมักเต็มไปด้วยขยะโดยเฉพาะหลังมืดค่ำ ต้องเก็บขยะกว่า 250 ตันต่อปี ขณะที่พ่อค้าแผงลอยผิดกฎหมายก็รบกวนทัศนียภาพ
- โครงสร้างสนิม: โครงเหล็กของหอไอเฟลมีร่องรอยสนิมอย่างชัดเจน และการทาสี/ซ่อมแซมใหญ่ถูกเลื่อนมาหลายครั้งเนื่องจากปัญหาสารตะกั่วและผลกระทบจากโควิด แม้จะมีการพ่นสีด้วยงบ 60 ล้านยูโรไปเมื่อปี 2022 แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่ายังไม่ทั่วถึง
- ความปลอดภัย: เดือนธันวาคม 2024 เกิดเหตุ ไฟไหม้ในช่องลิฟต์ ทำให้ต้องอพยพคน 1,200 คน รวมถึงในปี 2019 ก็เคยมีผู้พยายามปีนโครงสร้างภายนอก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน
ความบกพร่องเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้ประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวไม่เต็มที่เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเมืองปารีสในระดับสากลด้วย ปัญหาหลักเกิดจากจำนวนผู้เยี่ยมชมที่มากเกินไป งบประมาณที่ไม่เพียงพอ และความซับซ้อนในการจัดการพื้นที่สาธารณะโดยรอบ แต่ด้วยความกดดันของการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก 2024 ทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสและผู้รับผิดชอบต้องเร่งมือในการบำรุงรักษาเชิงโครงสร้าง เพิ่มมาตรการความสะอาด และสื่อสารเรื่องความปลอดภัยอย่างจริงจัง เพื่อฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของ หอไอเฟล ในฐานะสัญลักษณ์ของโลกให้กลับมาอีกครั้ง
สรุป: หอไอเฟล ปัญหา หลักคือความเสี่ยงด้านความปลอดภัย (ไฟไหม้ลิฟต์), โครงสร้างเหล็กมีสนิม และความสกปรกในสวน Champ de Mars ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องแก้ไขก่อนมหกรรมโอลิมปิก 2024