กรมชลประทานแจ้งปรับ “ระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา” มากกว่า 2,700 ลบ.ม./วินาที เพื่อรองรับน้ำเหนือและฝนจากช่วง 7–10 พฤศจิกายน 2568 พื้นที่ริมน้ำลุ่มเจ้าพระยามีความเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำล้นตลิ่ง โดยคาดว่าระดับน้ำท้ายเขื่อนจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนและหน่วยงานในเส้นทางน้ำเฝ้าระวังใกล้ชิด
พื้นที่เสี่ยงและแนวทางรับมือ ระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา
คาดการณ์น้ำที่สถานี C.2 จ.นครสวรรค์เพิ่มราว 2,900–3,000 ลบ.ม./วินาที รวมกับน้ำจากสะแกกรังและลำน้ำสาขาอีก ~400 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ท้ายเขื่อน จ.ชัยนาท และพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำเสี่ยงสูง ขอเร่งยกของขึ้นที่สูง ป้องกันไฟฟ้า ปิดทางน้ำรั่ว และติดตามประกาศหน่วยงานรัฐอย่างต่อเนื่อง
- 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาที่ต้องเฝ้าระวัง: อุทัยธานี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, สุพรรณบุรี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, ปทุมธานี, นนทบุรี, สมุทรปราการ, กรุงเทพมหานคร
- จุดเสี่ยงนอกคันกั้นน้ำ (ตัวอย่าง): คลองโผงเผง (อ่างทอง), คลองบางบาล–ผักไห่–แม่น้ำน้อย (พระนครศรีอยุธยา), วัดสิงห์–อินทร์บุรี (สิงห์บุรี), สรรพยา–ท่าทราย (ชัยนาท), ป่าโมก (อ่างทอง)
- เช็กทางน้ำไหลผ่านบ้าน/ชุมชน เตรียมกระสอบทราย ปรับเส้นทางสัญจร และเฝ้าระวังเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง
สรุปคือ การ “ระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา” เพิ่มครั้งนี้มีเป้ารองรับน้ำเหนือและฝนระลอกใหม่ แต่ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้นในหลายจุด ขอให้ประชาชนริมเจ้าพระยา–แม่น้ำน้อยติดตามประกาศกรมชลประทานและ สทนช. อย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมแผนอพยพและปกป้องทรัพย์สินในช่วง 7–10 พ.ย. 2568