เสื้อฟรีไซส์ (Free Size) เป็นที่นิยมอย่างมากในการซื้อขายออนไลน์และในร้านค้าทั่วไป เพราะดูเหมือนจะง่ายและใส่ได้ทุกคน แต่หลายครั้งที่สั่งมาแล้วกลับใส่ไม่ได้พอดี! แท้จริงแล้ว “ฟรีไซส์” ไม่ได้แปลว่าไม่มีขนาด แต่หมายถึงขนาดที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกลุ่มผู้ใส่ส่วนใหญ่
เสื้อฟรีไซส์ ขนาดเท่าไหร่ ที่นิยมใช้
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ผลิตมักจะออกแบบเสื้อฟรีไซส์ให้อยู่ในช่วงขนาดที่ครอบคลุมขนาดเสื้อผ้า S, M, และ L เข้าด้วยกัน หรือเน้นไปที่ขนาดกลางเป็นหลัก:
| รายละเอียด | ขนาดโดยประมาณ (นิ้ว) | เทียบเท่าไซส์มาตรฐาน | 
| รอบอก (Bust) | 32 – 38 นิ้ว | S ถึง L | 
| ความยาว (Length) | ขึ้นอยู่กับดีไซน์ | มาตรฐาน (ไม่สั้นไม่ยาวเกินไป) | 
หมายเหตุสำคัญ:
- เน้นความยืดหยุ่น: เสื้อฟรีไซส์มักทำจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่น (เช่น ผ้าถัก, ผ้ายืด, ผ้าสแปนเด็กซ์) หรือมีดีไซน์ที่หลวม (Oversize) เพื่อให้รองรับสรีระได้หลายขนาด
- เป็นขนาดเฉลี่ย: หากคุณมีรูปร่างเล็กมาก (XS) หรือมีรูปร่างใหญ่ (XL ขึ้นไป) เสื้อฟรีไซส์อาจจะหลวมเกินไป หรือคับจนเกินไป
💡 เคล็ดลับการเลือกซื้อเสื้อฟรีไซส์ให้รอด
เพื่อไม่ให้พลาดและใส่เสื้อฟรีไซส์ได้อย่างมั่นใจ ควรทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
- ขอดู “ขนาดจริง” (วัดจากสินค้าจริง): สิ่งสำคัญที่สุดคือการขอให้ร้านค้าระบุตัวเลขวัดจริงของเสื้อ เช่น รอบอก, ความยาว, ความกว้างไหล่ อย่าเชื่อแค่คำว่า “ฟรีไซส์” เพียงอย่างเดียว
- เทียบกับเสื้อตัวโปรด: นำขนาดจริงที่ร้านค้าให้มา เทียบกับเสื้อที่คุณใส่พอดีและชอบที่สุด เพื่อดูว่าขนาดต่างกันมากน้อยแค่ไหน
- เช็กวัสดุ: หากเป็นผ้าที่ยืดหยุ่นได้ดี (เช่น ผ้า Rib หรือผ้า Cotton Spandex) จะยืดหยุ่นได้มากกว่าผ้าที่ไม่ยืด
สรุป: เสื้อฟรีไซส์ไม่ใช่ขนาดสากล แต่เป็นขนาดที่ออกแบบมาเพื่อคนส่วนใหญ่ (S-L) หากต้องการความมั่นใจ ต้องขอดูตัวเลขวัดขนาดจริงทุกครั้ง ก่อนตัดสินใจซื้อ
 
			 
			 
			